Facebook Pixel Code
ผมมีกี่ประเภท สังเกตและดูแลอย่างไร

ผมมีกี่ประเภท สังเกตและดูแลอย่างไร

เส้นผมของคนเราแม้งอกออกมาจากต่อมรากผมที่อยู่ใต้หนังศีรษะเหมือนๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันตามสภาพร่างกายที่หลากหลายของแต่ละคน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ และสามารถสังเกตได้ไม่ยาก ดังนี้  

XYyMbI.jpg

1. ผมธรรมดา (Normal Hair) เป็นผมที่มีลักษณะเรียบลื่นเงางาม มีความชุ่มชื้น แลดูมีน้ำหนัก และสามารถจัดแต่งทรงได้ง่าย ซึ่งคนที่มีผมธรรมดานี้ถือว่าโชคดีที่สุด เพราะเส้นผมจะมีต่อมไขมันที่อยู่ใต้หนังศีรษะ ผลิตไขมันผิวหนังออกมาเคลือบเส้นผมในปริมาณที่พอเหมาะพอดี และมีค่าความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม
โดยวิธีการสังเกตเส้นผมธรรมดา ง่ายๆ คือสัมผัสแล้วผมเรียบลื่น ไม่สากแห้ง ผมร่วงน้อย ไม่ค่อยมีรังแคหรือมีปัญหาอื่นๆ และเมื่อนำเอาทิชชูซับเบาๆ บริเวณหนังศีรษะหลังจากสระมาแล้ว 2 วัน ก็จะมีคราบน้ำมันติดมาให้เห็น
การดูแลผมธรรมดา เริ่มจากการเลือกใช้แชมพูสระผมสูตรอ่อนโยน ล้างให้สะอาด และสระอย่างสม่ำเสมอ พยายามไม่ให้ผมสัมผัสโดนแสงแดด ไม่อยู่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำนานๆ ไม่หวีผมหรือเป่าผมด้วยไดร์บ่อยเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม ดัดผม หรือยืดผม

XYIYfb.jpg

2. ผมมัน (Oily Hair) เป็นผมที่มีลักษณะทึบมัว มันเยิ้ม ดูเหนียวเหนอะหนะ ทำให้สิ่งสกปรกเกาะติดง่าย และหนังศีรษะมีความมันรวมไปถึงใบหน้าด้วย ซึ่งสาเหตุมาจากต่อมไขมันผลิตไขมันผิวหนังออกมามากเกินไป และอาจมีปัจจัยภายนอกร่วมด้วย เช่น เส้นผมไปสัมผัสอากาศที่มีความชื้นมากบ่อยๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมหรือจัดแต่งผมที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมากเกินไป
โดยวิธีการสังเกตเส้นผมมัน ก็คือสัมผัสแล้วผมลีบแบน ไม่มีน้ำหนัก ไม่ว่าจะสระผมบ่อยแค่ไหน ก็ยังดูมันเยิ้ม และจากการที่ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามาก จึงส่งผลให้เกิดรังแคง่าย แล้วตามมาด้วยปัญหาผมร่วงอีกต่างหาก เมื่อนำเอาทิชชูซับเบาๆ บริเวณหนังศีรษะหลังจากสระมาแล้ว 2 วัน ก็จะมีเส้นผมเหนียวติดมันขึ้นมาด้วย
การดูแลผมมัน เริ่มตั้งแต่เลือกใช้แชมพูสระผมสำหรับผมมัน สระผมบ่อยๆ และล้างให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ตามเส้นผม น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำเย็น การใช้ครีมนวดผม-ให้ใช้นวดแค่บริเวณปลายผม และหลีกเลี่ยงครีมนวดที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่เข้มข้นหรือมีปริมาณมาก เพราะจะยิ่งทำให้ผมมันยิ่งขึ้น รวมทั้งควรงดอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อป้องกันการไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันด้วย

XYIOhQ.jpg

3. ผมแห้ง (Dry Hair) เป็นผมที่มีลักษณะแห้ง หยาบฟู เปราะขาดง่าย ไม่มีน้ำหนัก ขาดความชุ่มชื้น และจัดแต่งทรงได้ยาก เนื่องจากต่อมไขมันผลิตไขมันผิวหนังออกมาน้อยเกินไปนั่นเอง ส่วนปัจจัยภายนอกที่ส่งผลให้ผมแห้งได้ ก็มีทั้งจากผมไปสัมผัสโดนแสงแดด น้ำทะเล คลอรีนในสระว่ายน้ำมากเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่มีส่วนผสมที่ทำลายผิวชั้นนอกของผม อย่างเช่น ยาย้อมผม ยากัดผม หรือยาดัดผมบ่อยเกินไป
โดยวิธีการสังเกตเส้นผมแห้ง เมื่อลูบแล้วจะรู้สึกได้ว่าผมแห้งสาก ชี้ฟู แตกปลาย ขาดเปราะและหลุดร่วงง่าย เมื่อนำเอาทิชชูซับเบาๆ บริเวณหนังศีรษะหลังจากสระมาแล้ว 2 วัน จะไม่มีอะไรติดออกมาเลย
การดูแลผมแห้ง เริ่มด้วยการไม่สระผมบ่อยเกินไป และควรเลือกใช้แชมพูสระผมสำหรับผมแห้ง หลังสระผมควรใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ ไม่หวีผมแรงๆ งดการสัมผัสความร้อนจากไดร์เป่าผมหรืออุปกรณ์ผมทำอื่นๆ และหลีกเลี่ยงการดัดหรือทำสีผมบ่อยๆ  

สุดท้าย อยากฝากไว้ ไม่ว่าคุณจะมีเส้นผมประเภทไหน อย่างไร ขอเพียงรู้จักดูแลอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ ก็สามารถทำให้ผมของคุณแข็งแรง สุขภาพดี และดูมีชีวิตชีวาได้เหมือนๆ กัน

อ่านบทความอื่นๆ คลิกเลย

Tags

เลือกจากหมวดหมู่

เรื่องน่ารู้

ฮวงจุ้ยร้านเสริมสวย ทำอย่างไรให้รวย

ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่เก่าแก่ของจีน มีความหมายว่า "อยู่อาศัยให้สอดคล้อง" คำว่า "ฮวงจุ้ย" มาจากคำว่า ลม(ฮวง) และน้ำ(จุ้ย) ฮวงจุ้ยอาศัยหลักการของการไหลเวียนของพลังงานบนผืนโลก(พลังซี่) โดยพื้นฐานก็คือการสร้างสมดุลย์ระหว่างลมกับน้ำ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญนักพยากรณ์ฮวงจุ้ย ซึ่งสามารถอ่านพลังงานของชี่และแหล่งที่มาของชี่ให้ออกเพื่อเสริมการนำเข้าหรือปิดกั้นให้ชี่ที่ดีสามารถเข้าได้และถ่ายเทชี่ที่เสีย สำหรับร้านเสริมสวยก็เหมือนกับที่อยู่อาศัยหรือบริษัทห้างร้าน หากเรารู้ฮวงจุ้ย ก็จะเสริมให้กิจการ