Facebook Pixel Code
7 days challenge ... เปลี่ยนผมพังเป็นผมปังใน 7 วัน

7 days challenge ... เปลี่ยนผมพังเป็นผมปังใน 7 วัน

สะพรึงมากแม่! ตื่นเช้าขึ้นมาถึงกับกรีดร้องตอนส่องกระจกเห็นผมพัง ทั้งที่เป็นช่วงกักตัว ไม่ได้ออกไปไหนให้แสงแดดแผดเผาหรือมลพิษข้างนอกทำร้าย แล้วทำไมผมยังพังแบบไม่แคร์เจ้าของศีรษะ งานนี้ตัวช่วยเปลี่ยนผมพังเป็นผมปังใน 7 วันเลยต้องมา อ่ะ...เริ่ม

1. ปลอกหมอน ตัวแปรของผมเสีย ปลอกหมอนเป็นส่วนที่เส้นผมต้องสัมผัสตลอดทุกคืน ทั้งคืน ถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี โดยเฉพาะตอนผมเปียกแล้วรีบนอนจะทำให้หนังศีรษะเกิดเชื้อรา มีรังแค ร่วง คัน หรืออักเสบได้ ฉะนั้นต้องหมั่นทำความสะอาดหมอน ตีฝุ่น ตากแดด ซักปลอกหมอน บ่อยๆ สำคัญคืออย่านอนตอนผมเปียก ควรรอให้แห้งสนิทก่อนด้วยลมเป่าจากพัดลมหรือไดร์เป่าผมระบบความร้อนต่ำ เพื่อป้องกันผมเสียจากความร้อนสูงเกินไป 


2. หวีแหล่งหนึ่งที่สะสมเชื้อโรค ทำให้ผมเสียโดยไม่รู้ตัว ควรล้างทำความสะอาดหวีอยู่เป็น ประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนการหวีผม ยิ่งหวีเบาๆ ให้นานๆ หน่อย จะทำให้ผมแข็งแรงเงางาม เพราะการหวีผมช่วยกระตุ้นน้ำมันหล่อเลี้ยงหนังศีรษะให้มาเคลือบเส้นผมนั่นเอง


3. ไม่เกาหรือขยี้หนังศีรษะแรงๆ มันไม่ได้ช่วยให้หนังศีรษะสะอาดขึ้น แต่กลับจะเสี่ยงต่อการถลอก อักเสบและเป็นแผลได้ง่าย ดีไม่ดีเสียเวลารักษายาวๆ ไปอีก แถมยังพลอยทำให้เส้นผมพังได้ด้วย     


4. อย่าลืมครีมบำรุง นอกจากสระผมบ่อยๆ ด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน มีฤทธิ์ชะล้างไม่รุนแรงแล้ว ทุกครั้งหลังสระแนะนำ ให้บำรุงด้วยครีมบำรุงผมหรือคอนดิชันเนอร์ที่มีคุณภาพ เหมาะกับสภาพเส้นผม ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสำหรับผมแห้งแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนัก ผมขาดร่วง ฯลฯ หมั่นหมักผมด้วยครีมหมักผมอย่างสม่ำเสมอ ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูผมให้นุ่มสลวย สวยงาม และแข็งแรงยิ่งขึ้น


5. เว้นระยะการย้อม ใครชอบยืด ย้อม ทำสี หรือปิดผมขาว ด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของสารเคมี ควรเว้นระยะ การใช้ลงบ้าง เช่น เว้นห่าง 3-4 เดือน ค่อยทำใหม่หรือใช้สลับกับสูตรธรรมชาติ หากเปลี่ยนมาใช้แบบปราศจากสารเคมีเลยก็จะดีที่สุด เพราะอย่างที่รู้กัน สารเคมีเป็นตัวการทำลายโปรตีนและเคราตินบนเส้นผม


6. หลีกเลี่ยงหรือลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ากับผม เพื่อป้องกันผมถูกทำร้าย แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีระบบปล่อยไอโอนิคถนอมเส้นผม หรือปรับอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไปได้ นอกจากนั้นก่อนใช้ควรทาออยล์เคลือบบนเส้นผมก่อน จะช่วยให้ผมเสียหายน้อยลง 


7. ควรตัดผมหรือเล็มปลายผมทุกๆ 2 เดือน เพราะผมที่ปล่อยไว้ยาวนานๆ จะสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ จึงเสี่ยงต่อการแห้งเสียและแตกปลาย ยิ่งหากมีการทำสีผม ก็ยิ่งทำให้แห้งกรอบมากขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมตัดผมหรือเล็มปลายผมกันด้วย ผมจะได้กลับมาปังดังใจอีกครั้ง

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม คลิก>>>https://www.sereechaibeauty.com/blog

Tags

เลือกจากหมวดหมู่

เรื่องน่ารู้

ฮวงจุ้ยร้านเสริมสวย ทำอย่างไรให้รวย

ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่เก่าแก่ของจีน มีความหมายว่า "อยู่อาศัยให้สอดคล้อง" คำว่า "ฮวงจุ้ย" มาจากคำว่า ลม(ฮวง) และน้ำ(จุ้ย) ฮวงจุ้ยอาศัยหลักการของการไหลเวียนของพลังงานบนผืนโลก(พลังซี่) โดยพื้นฐานก็คือการสร้างสมดุลย์ระหว่างลมกับน้ำ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญนักพยากรณ์ฮวงจุ้ย ซึ่งสามารถอ่านพลังงานของชี่และแหล่งที่มาของชี่ให้ออกเพื่อเสริมการนำเข้าหรือปิดกั้นให้ชี่ที่ดีสามารถเข้าได้และถ่ายเทชี่ที่เสีย สำหรับร้านเสริมสวยก็เหมือนกับที่อยู่อาศัยหรือบริษัทห้างร้าน หากเรารู้ฮวงจุ้ย ก็จะเสริมให้กิจการ