แมวเหมียวก็เหมือนกับน้องหมา คือเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่คนทั้งโลกเทใจให้ ทำให้เจ้าของแมวเหมียวทั้งหลายพยายามดูแลเอาใจใส่อย่างดี ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ไปจนถึงขนปุกปุยที่จะต้องสวยฟู ดูดี ไม่มีโรคกล้ำกราย โดยสำหรับการดูแลขนให้สวยฟูนั้น มีวิธีดูแลไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเสียทีเดียวมาแนะนำกันค่ะ
แต่ก่อนจะเข้าสู่วิธีการดูแลขนแมวให้สวยฟู ควรทำความรู้จักกับขนแมวโดยทั่วไปนิดหนึ่งว่า แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
-
ขนชั้นนอก
-
ขนชั้นกลาง
-
ขนชั้นล่าง
โดยแต่ละชั้นจะมีสี ความยาว และการกระจุกตัวของขนแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ นอกจากนั้นขนแมวยังมีวงจรชีวิตคล้ายๆ ขนคนอีกด้วย นั่นคือมีทั้งขนเพิ่งเกิดใหม่ ขนโตเต็มวัย และขนที่พร้อมจะหลุดร่วงออกไป ซึ่งคนเลี้ยงแมวน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่า การเลียขนของแมวเหมียวบ่อยๆ นั้นเป็นการเลียเพื่อทำความสะอาดตัวเองและแปรงขนที่ตายแล้วให้หลุดร่วงไป หากวันไหนแมวเหมียวไม่ค่อยเลียขน ก็แสดงว่าวันนั้นขนแก่ของมันร่วงมากพอแล้วนั่นเอง
จึงเห็นได้ว่า รูปแบบของขนแมวเหมียวมีความละเอียดอ่อน ทำให้วิธีการดูแลเป็นสิ่งที่ต้องหมั่นเอาใจใส่สม่ำเสมอ เพื่อให้ขนของมันสวยฟู หนานุ่ม เป็นเงางาม ไม่หยาบกระด้าง ขาดร่วงง่าย หรือเป็นโรคเห็บหมัดต่างๆ ซึ่งจะขอเข้าเรื่องเลยว่า มีวิธีดูแลคูลๆ ดังนี้

- หมั่นแปรงขนแมว เพื่อช่วยกำจัดเศษขนที่ตายแล้วกับขนส่วนเกินออกไป และป้องกันไม่ให้ขนพันกัน รวมทั้งช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังของแมวมาช่วยบำรุงเส้นขนให้เงางามด้วย และลดปัญหาก้อนขนแมวอุดตัน แนะนำให้แปรงช้าๆ อย่างเบามือ ใช้ระยะเวลาสั้นๆ และหยุดแปรงเมื่อเจ้าแมวแสดงอาการต่อต้าน โดยควรแปรงเป็นประจำทุกวัน ด้วยการเลือกแปรงชนิดต่างๆ ที่เหมาะกับสภาพขนแมว ได้แก่ แปรงหมุดเหมาะกับการใช้กำจัดขนน้องแมวที่ร่วงแล้วยังติดอยู่ตามลำตัว, แปรงขนลวดเหมาะกับการใช้สางขนที่พันกันตามจุดต่างๆ เช่น ตามหลังใบหู รักแร้ หรือซอกขา และแปรงขนหมูเหมาะกับขนแมวที่สั้นๆ ซึ่งจะช่วยขจัดสะเก็ดต่างๆ ที่อยู่บนผิวของแมวออกไปด้วย
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับแมวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแชมพูหรืออาหารเสริมบำรุงเส้นขน สำหรับแชมพู อย่าใช้แชมพูของคน แม้แต่แชมพูเด็กมาใช้กับน้องแมวเชียว เพราะค่า pH (ค่าที่แสดงความเป็นกรด-ด่างของสารละลายของเหลวและน้ำ) แตกต่างกัน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ผิวน้องแมวอักเสบหรือระคายเคืองได้ โดยก่อนสระขนให้น้องแมว ต้องไม่ลืมว่าอยู่ในวัยที่อาบน้ำหรือสระขนได้แล้ว นั่นคือน้องแมวแข็งแรง มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่พร้อมจะฝึกให้อาบน้ำได้ โดยหมั่นอาบน้ำให้ประมาณ 1-3 เดือนต่อครั้ง แต่หากน้องแมวกลัวการอาบน้ำมากๆ ก็ให้ใช้ทิชชูสำหรับทำความสะอาดขนสัตว์เลี้ยงแทน ซึ่งก่อนจะอาบน้ำสระขนให้น้องแมว ควรแปรงขนไม่ให้พันกันก่อน และเมื่อสระขนเสร็จแล้ว ต้องล้างเอาแชมพูออกให้สะอาดหมดจด ไม่ให้เหลือติดอยู่ตามขนหรือลำตัว ส่วนอาหารเสริมบำรุงเส้นขนที่เหมาะกับน้องแมว เน้นที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ไบโอติน สังกะสี และวิตามินต่างๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นขนเป็นพิเศษ ก็จะทำให้ขนแมวสวยฟู ดูเงางามแน่นอน
- ป้องกันและกำจัดเห็บหมัด เห็บและหมัดเป็นปรสิตที่ทำให้ขนและผิวหนังของแมวเป็นอันตรายมากที่สุด ยิ่งหากน้องแมวแพ้เห็บหมัดมากๆ ก็จะยิ่งทำให้คันและเกาจนขนขาดร่วง เสียหาย และเกิดบาดแผลกับผิวหนังได้ ดังนั้นควรป้องกันด้วยการใช้ยาหยอดป้องกันเห็บหมัดจากโรงพยาบาลสัตว์หรือเพตชอปต่างๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงพาน้องแมวไปในที่ๆ สุ่มเสี่ยงกับการแพร่กระจายของเห็บหมัด นอกจากนั้นควรวางโปรแกรมพาน้องแมวไปปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อควบคุมการเกิดเห็บหมัด ตลอดจนปรสิตอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอด้วย และเมื่อไหร่ที่น้องแมวป่วยเป็นโรคผิวหนัง ซึ่งสังเกตได้จากอาการคัน ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ก็ควรรีบพาน้องแมวไปหาสัตวแพทย์ทันที
ด้วยวิธีดูแลขนแมวเหมียวดังกล่าวนี้ ก็จะช่วยให้ขนของมันสวยฟู ดูดี มีความเงางาม น่าฟัดน่ากอดแล้ว เรียกได้ว่าดูแลไม่ได้ยากเกินไปสำหรับเจ้าของแมวเลยใช่มั้ยล่ะ...
เลือกซื้อสินค้าสำหรับ Pet Grooming ได้ที่นี่ คลิกเลย
อ่านบทความเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อื่นๆ คลิกเลย