โลกในยุคปัจจุบันเป็นยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น ที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการบริโภคของผู้คน จนส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า รวมถึงธุรกิจร้านทำผมหรือซาลอน ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจไม่รีบปฏิวัติหรือปรับตัวด้วยกลยุทธ์การตลาดที่โดดเด่นและหลากหลายแล้ว ก็มีสิทธิ์ถูกดิสรัปออกไปจากวงการแบบไม่ทันตั้งตัวได้
      ดังนั้น การบริหารร้านทำผมในยุคดิจิทัลดิสรัปชั่นนี้ จึงถือว่าเป็นยุคที่ท้าทายผู้ประกอบการที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา เอาละ มาดูกันว่า มีกลยุทธ์เด็ดๆ อะไรบ้างที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจนี้ยังคงแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง 

      อย่างที่รู้กัน ร้านทำผมเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการ เพราะฉะนั้นการให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องสำคัญมากในการเสริมสร้างลูกค้าใหม่ รักษาและขยายฐานลูกค้าเก่าให้อยู่กับเราไปนานๆ สำหรับในยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น แน่นอนอันดับแรก ร้านทำผมย่อมคุ้นเคยกับสื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค ยูทูป อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ ดีอยู่แล้ว แต่คุ้นเคยอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักนำกลยุทธ์นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย โดยใช้เป็นพื้นที่สื่อสารข้อมูล เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ให้ลูกค้าได้รับรู้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาช่องทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านผ่านสื่อเหล่านี้ได้ง่ายที่สุดและเร็วที่สุดด้วย ควรมีการตั้งระบบตอบคำถาม พร้อมการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียเวลาอยู่นานกว่าจะได้รับคำตอบ ไม่เช่นนั้นคุณจะเสียลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย         

      นอกจากสื่อออนไลน์ข้างต้นแล้ว ก็ยังมีโปรแกรมดิจิทัลอื่นๆ ที่นำมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าร้านทำผมได้อีก นั่นคือกลยุทธ์การพัฒนาแอพต่างๆ มาใช้อำนวยความสะดวกอย่างเหนือชั้น เช่น แอพไฟเดอร์ ช่วยให้ลูกค้าค้นหาพิกัดของร้าน จองเวลานัดหมาย และตรวจสอบรูปแบบการให้บริการต่างๆ ในเบื้องต้นได้ล่วงหน้า ทำให้เดินทางมาใช้บริการสะดวกง่ายดาย ไม่หลงทาง ไม่เสียเวลาคอยนาน, แอพสไตลิ่งสำหรับนำเสนอทรงผมและสีผมต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถทดสอบกับใบหน้าตัวเองที่ถ่ายลงไปในแอพโดยตรง ก่อนตัดสินใจเลือกทรงและสีที่ถูกใจที่สุด แอพนี้ยังช่วยช่างผมให้ทำงานได้รวดเร็ว และประทับใจลูกค้ามากขึ้นด้วย, แอพแฮร์ เอ็กซ์เปิร์ท ใช้ตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับปัญหาและการดูแลเส้นผมอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยทั้งลดขั้นตอนการทำงานของช่าง และเป็นการให้บริการลูกค้าเกินความคาดหมาย   

       ระบบการจ่ายเงินยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายด้วยเงินสดหรือรูดบัตรเท่านั้น แต่ร้านทำผมควรเพิ่มกลยุทธ์การจ่ายที่อำนวยความสะดวกลูกค้ายิ่งขึ้น โดยให้สามารถจ่ายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-banking ได้ด้วย ระบบนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางความหลากหลายในการจ่ายเงิน แค่มีมือถือพกติดตัว ก็แก้ปัญหาการใช้จ่ายของลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย

      สร้างจุดแข็งด้วยกลยุทธ์การใช้ซอฟต์แวร์หรือนวัตกรรมสำหรับเก็บรวบรวมฐานข้อมูลลูกค้าเชิงลึก ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าเก่า ลูกค้าขาจร ลูกค้าประจำ และลูกค้าวีไอพี เพื่อให้ทราบว่าแต่ละคนมีสภาพผมแบบไหน ชื่นชอบผมทรงอะไร หรือใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ใด เป็นต้น รวมทั้งมีการทำระบบสมาชิกที่ทันสมัย ไม่ใช่จดบันทึกเป็นแมนนวลเหมือนสมัยก่อน จุดแข็งด้านนี้ไม่เพียงยกระดับร้านทำผมเป็นมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ช่างผมบริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 

      เอาให้สุดๆ ด้วยการนำกลยุทธ์ล้ำสมัยอย่างหุ่นยนต์ตัดผมมาใช้ในร้านทำผม เพราะปัจจุบันบาร์เบอร์ในต่างประเทศบางร้าน ก็ได้มีการนำหุ่นยนต์ปัตตาเลี่ยนมาใช้ตัดผมลูกค้าบ้างแล้ว เพียงแต่ยังเป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วย เนื่องจากช่างยังต้องทำการบังคับหุ่นยนต์ผ่านกล้องในการตัดผมอยู่ดี แต่ใครจะรู้ว่า ในโลกยุคดิจิทัลดิสรัปชั่นที่การพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ก้าวไกลมาก ไม่นานนี้เราอาจมีหุ่นยนต์ที่สามารถตัดผมได้จริงๆ และฝีมือดีเยี่ยมไม่ต่างจากมนุษย์ช่างผมก็ได้ ถึงตอนนั้นการนำหุ่นยนต์มาเป็นช่างตัดผมในร้านด้วย ก็ย่อมจะเป็นกลยุทธ์เหนือจินตนาการที่สร้างความโดดเด่นฮือฮาให้กับร้านทำผมได้อย่างแน่นอน